เรียนรู้จาก Steve Jobs คือเรื่องที่ไม่เคยเก่า เขาให้แนวคิดอะไรเราบ้าง ?
ความเชี่ยวชาญและความชำนาญเกิดจากการทำซ้ำบ่อย ๆ เพราะก่อนที่ทุกอย่างจะเข้าที่ เข้าทางมันต้องทำซ้ำอยู่บ่อย ๆ และแก้ไข ใช้ความล้มเหลวไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนา เพราะในการพัฒนาโปรดักส์ที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ จึงมาพร้อมกับการรับมือกับความผิดพลาด รวมถึงความถูกใจในบางอย่าง เกี่ยวกับโปรดักส์ของลูกค้าและต้องพัฒนาใหม่อย่างต่อเนื่อง เลือกทำในสิ่งที่ยากเข้าไว้ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลา ถึงแม้ว่าจะต้องแบกรับความเสี่ยงในสิ่งที่จะตามมา แต่นั่นคือโอกาสแห่งความสำเร็จที่แตกต่างเช่นกัน Photo Credit: https: www.techmoblog.com/ …
ใช้ Chat GPT เพื่อช่วยให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
นาทีนี้มาแรงอย่างมาก เป็นกระแสที่ถูกพูดถึงต่อเนื่องสำหรับ Chat GPT AI ที่ช่วยผ่อนแรงให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งการให้ข้อมูล การช่วยงานเขียน และอีกมากมาย และกับล่าสุดที่โด่งดังอีกครั้งคือการนำ Chat GPT มาเป็นผู้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานให้ดียิ่งกว่าเดิม ผ่อนแรงคนทำงานได้มากทีเดียว ส่งเสริมงาน HR & Training สร้างบทบาทให้ Chat GPT ดีไซน์การเตรียมความพร้อมของการเข้าทำงาน เช่น การเขียน Resume, การเตรียมคำตอบในคำถามตามตำแหน่งงาน เป็นต้น Relationship ใครบอกว่า AI ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้ความรัก ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานได้ เพราะ AI ไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนของคน แต่ Chat GPT ทำได้แล้ว เช่น ขอคำแนะนำเมื่อทะเลาะกับเพื่อนสนิท หรือ แก้ปัญหาทะเลาะกับคู่สมรส หรือ แก้ปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน Tutor, Teacher มาถึงในจุดที่มี AI ช่วยในการให้ความรู้และติวหนังสือกันแล้ว …
วิธีเช็คความถนัดและพรสวรรค์ของตัวคุณเอง
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองถนัดอะไร มีความสามารถอะไรพิเศษ มีพรสวรรค์อะไรติดตัวมาบ้าง ? มาดูวิธีเช็คกัน เช็คลิสต์ว่าตัวเราเองมีความสนใจเรื่องอะไรเป็นหลัก ทำอะไรอยู่บ่อย ๆ ทั้งงานหลักและงานอดิเรก และเป็นสิ่งที่ตัวเราเองรู้สึกว่าทำได้ดีหรือมีคนอื่น Feedback ว่าทำได้ดี ลองวางกระดาษ หยิบปากกา ขึ้นมาเขียนใน 2 ฝั่งว่า…อะไรที่เราทำได้ดีและเป็นจุดแข็ง ทำได้สำเร็จบ่อย ๆ และอะไรที่เรายังทำไม่ได้ดีและคิดว่ายังเป็นจุดที่ควรพัฒนา Google Search เพื่อหาแบบทดลองจุดแข็ง จุดอ่อนของเราแบบออนไลน์ และลองทำหลาย ๆ รูปแบบเพื่อหาค่ากลางเป็นความแม่นยำสูงสุด ยกตัวอย่างเช่น StrengthsFinder Gallup เป็นต้น ถ้ายังไม่คิดไม่ออกลองทำให้หมดทุกเรื่องที่สนใจ ทั้งที่ถนัดและไม่ถนัดให้ประสบการณ์จริงพาไป เพื่อเป็นคำตอบจากการลงมือทำจริง ๆ …
อยากสร้างรายได้มากกว่าคนอื่นต้องมีทักษะนี้
หากเราต้องการสร้างรายได้มากกว่าคนอื่น นอกจากทักษะเรื่องของการ Pro Active แล้วนั้น ยังมีทักษะหลาย ๆ ข้อที่ขอนำมาแบ่งปัน ทำอย่างไรก็ได้ให้องค์กรเกิด One Stop Service ให้ลูกค้ามาที่นี่ที่เดียวแล้วครบ ใช้บริการหนึ่งมาต่อยอดอีกอันหนึ่ง เกิดการกลับมาซื้อซ้ำ ใช้ซ้ำ บนการรู้จักสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า Win -Win ยืดหยุ่นให้ยั่งยืน สร้างการเติบโตในองค์รวมไม่เพียงแค่บริการใดบริการหนึ่ง ไม่อย่างนั้นหากบริการหรือโปรดักส์นั้นเสื่อมถอยไปตามเทรนด์ โอกาสรายได้ก็จะลดลงตาม เติบโตไปพร้อมกับลูกค้า ต้องคิดหาโปรดักส์หรือบริการที่สามารถขยายอาณาเขตของลูกค้า ไม่เจาะจงแค่การเข้ามาใช้ได้แค่ในช่วงอายุหนึ่งเท่านั้น …
Deployment Redis Documentation Middle
Any change applied to the aforementioned configuration file will then be used by Kubernetes to infer the specified cluster state. Kubernetes knows tips on how to assess the present cluster state and decide which operations to apply in order to transition in the path redis consulting of the desired state. This also applies, for example, to horizontal scaling when the developers can merely modifications the variety of desired replicas of a given service. First of all, we must talk about the benefits of using Kubernetes normally. This is the place an active-active structure is extraordinarily priceless. For example, a gaming …
10 of the Most Innovative Chatbots on the Web
speak to an AI with some Actual Intelligence? Jasper Chat also connects to the internet, so you’ll be able to fact-check faster with lists of fact sources. The great part about it is that you can quickly turn a conversation into a document (or more), making ideation and pushing first drafts easy work. When you input a prompt to create an article, Jasper Chat will return the result and suggest follow-up articles on similar topics. Presenting HuggingChat, an open source chatbot assembled by Hugging Face. You can tick Copilot in the search bar to get some help with product recommendations, …
สร้าง SEO บน Facebook
Search Engine Optimization หรือ SEO อีกหนึ่งเครื่องมือในการเพิ่มพื้นที่ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักหรือเห็นธุรกิจของเราได้มากขึ้น ในยุคก่อนคนอาจจะมองว่าถ้าจะทำ SEO จะต้องไปเน้นทำบนเว็บไซต์เท่านั้น เพื่อให้ขึ้นในหน้าแรกของ Search Engine อย่าง Google แต่ตอนนี้เราสามารถทำ SEO ให้ Facebook ไปขึ้นที่ Google ได้แล้ว!! ยิ่งอันดับสูงเท่าไหร่ยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสการมองเห็นได้มากเท่านั้น ชื่อ Facebook ต้องเกี่ยวกับธุรกิจและจดจำง่าย ชื่อเพจของ Facebook เป็นส่วนที่กลุ่มเป้าหมายจะเห็นเป็นอย่างแรก ดังนั้นการใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องหรือสื่อถึงประเภทธุรกิจและสินค้า URL ของ Facebook Page อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เพจของเราติดอันดับได้ง่ายขึ้น โดยเลือก Username ที่ใช้ชื่อสั้น กระชับ เป็นคำที่คนจะค้นหา เป็นชื่อของแบรนด์เราเองก็ทำได้เช่นกัน เลือกใช้ Keyword ให้เหมาะสม เราสามารถที่จะใช้เครื่องมือที่ช่วยวางแผนการใช้คีย์เวิร์ดเข้ามาช่วยได้เลือกคีย์เวิร์ดที่คนมักจะค้นหากันเยอะ โดยต้องเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราเพื่อนำเสนอสินค้าของเราให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เน้นไปที่คำที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์และคนใช้ค้นหามากที่สุด อย่าลืมที่จะอธิบายข้อมูลของแบรนด์ให้ครบถ้วน เพื่อให้ลูกค้าหรือคนที่เข้ามาในเพจเข้าใจแบรนด์ของเรามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ช่องทางการติดต่อ ลักษณะของธุรกิจ เวลาเปิด-ปิด ใส่ Backlink จากแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าลืมที่จะใส่ Backlink หรือการใส่ Link ของ Facebook ใส่แพลตฟอร์มอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Website, Blog หรือร้านค้าออนไลน์ที่เรามีอยู่ ใส่ปุ่ม CTA เพื่อกระตุ้นเป้าหมาย Call To Action หรือ CTA เป็นปุ่มที่ไม่ควรพลาดที่จะไม่ใส่ลงไป เพราะจะช่วยกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายลงมือดำเนินการในขั้นตอนต่อ ๆ ไป โดยเลือกใช้ให้เหมาะสม Objective ที่เราต้องการ เลือกใช้ # ที่เกี่ยวข้อง การเลือกใช้ Hashtag ที่มีคำเฉพาะหรือเจาะจงลงไปจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการเลือกใช้คำทั่ว ๆ ไป เพราะกลุ่มเป้าหมายมักจะเลือกค้นหาในสิ่งที่ตัวเองสนใจมากกว่าคำทั่วไปและควรเลือกคำสั้น ๆ คำที่จำง่าย เทคนิคการทำ SEO ที่ได้รวบรวมมาให้นี้ จะสามารถช่วยเพิ่มให้การค้นหาและการมองเห็น …
เทคนิคการยิงแอดใน Facebook เพื่อให้เกิด Effective ในทุก Statement
ยิงแอดอย่างไรก็ไม่ปัง ทำอย่างไรก็ไม่ Effective จ่ายค่าแอดเยอะ แต่กลับไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย วันนี้มีเทคนิคดี ๆ มาแนะนำกัน ลองไปเช็กกันดูว่าเราพลาดตรงไหนหรือต้องเติมส่วนไหนเข้าไปอีก ► ภาพที่ใช้ยิงโฆษณาต้องดี ต้องตระหนักไว้เสมอว่าแข่งขันกับโฆษณาอีกหลายตัว รวมถึงโพสต์ต่าง ๆ หน้าฟีดของกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นภาพต้องดึงดูดความสนใจให้ได้มากที่สุด โดยสามารถเลือกรูปจากเทคนิคเหล่านี้ เลือกสีพื้นหลังที่สะดุดตา เลือกรูปที่สื่อถึงอารมณ์ เลือกรูปที่แปลกใหม่แตกต่าง ► ต้องเข้าใจกลุ่ม Target หากยิงโฆษณาไปโดยไม่เข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าของเรา จะทำให้แอดที่ยิงไปไม่มีคุณภาพ ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสาร โดยเราสามารถใช้เครื่องมือ Audience Insight เพื่อดูข้อมูลเชิงลึกและนำมาวิเคราะห์ก่อนที่จะเลือกยิงแอดได้ ให้ได้รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเรานั้น ชอบทำอะไร ช่วงเวลาไหน มีความสนใจหรือกำลังติดตามเรื่องประเภทไหนอยู่ เพราะในโลกแห่งการตลาดนั้น Data คือสิ่งสำคัญ ที่จะพาธุรกิจให้สามารถแข่งขันและเจาะกลุ่มตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ► ไม่ควรแก้ไข Ad บ่อย ๆ หลังจากปล่อยโฆษณาออกไปแล้วควรรอดู Data ประมาณ 2 – 3 เพื่อวิเคราะห์ทิศทางของโฆษณาตัวนั้น ๆ ว่ากำลังรันไปได้ด้วยดีหรือว่าเงียบไปแล้ว แล้วจึงจะมาปรับแก้หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายหลังเพื่อให้ Ad ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหากแก้ไขบ่อย ๆ จะต้องรอผ่านการตรวจสอบจาก Facebook ทุกครั้งที่มีการแก้ไข นอกจากนั้นกลุ่มเป้าหมายของเราอาจจะยังไม่ทันเห็น หากรีบแก้ไขเร็วเกินไปจะทำให้พลาดโอกาสไป ► เลือก Target ให้ตรงกับโปรดักส์ ยังมีหลายคนที่มองว่าเลือก Target แบบกว้าง ๆ ไว้ก่อน หว่านแหไปเดี๋ยวก็ได้เอง แต่นั่นคือวิธีการที่ทำให้เราเสียเงินโดยไม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย หากปรับเป็นการรวมความสนใจที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและเกี่ยวข้องกันเอาไว้ซัก 3 อย่าง เป็นการทำให้กลุ่มเป้าหมายแคบลง โดยไม่เจาะจงเฉพาะสิ่งเดียว เช่น กรุ๊ปของคนชอบกางเกง คนชอบแฟชั่น คนชอบเสื้อผ้า เป็นต้น เพราะบางคนที่กดไลก์รูปกางเกง อาจจะไม่ได้ชอบกางเกงตัวนั้นแต่ชอบสีหรือชอบตัวคนที่สวมใส่ แต่ Facebook จะนับเป็นความสนใจกางเกง …
จะสำเร็จในธุรกิจไม่ใช่แค่กำไร แต่มองธุรกิจให้ออกตลอดทั้งสายจากต้นน้ำยันปลายน้ำ
อย่า!! มองแค่กำไร เพราะนี่ไม่ใช่ทั้งหมดของการทำธุรกิจ การจะทำธุรกิจให้ดีได้นั้นต้องแกะให้ออกต่อไปนี้ กำไร ต้นทุน ที่สอดคล้องกับเวลา สร้างแนวทางการตลาดการขายที่ได้ผลกับตัวเอง เช็คตลอดเส้นทางอะไร ที่ช่วยจัดการความเสี่ยงให้เร่งทำ ‘ในทันที’ สอนงาน คุมงาน สร้างให้ทีมงานเก่ง ไม่เพียงแค่ทำตามได้ แต่ทำได้ดีกว่า วัดผลตลอดเวลา สนุกกับเครื่องมือใหม่ ๆ ไม่สร้างภาวะยึดติด …
5 จิตวิทยา สร้าง Brand Awareness
เคยสงสัยกันบ้างไหม ? ว่าทำไมเวลาเลื่อนหน้าฟีดไปแล้วถูกดึงดูดด้วยโฆษณาบางตัวถึงกับที่เราดูจนจบ ไม่กดข้ามเลย แล้วเคยลองย้อนกลับไปดูพฤติกรรมการ shopping ของตัวเราเองบ้างไหม ? ว่าทำไมถึงซื้อสินค้าหรือบริการนี้แทนที่จะซื้อของอีกเจ้านึง หลายคนอาจจะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า “การถูกสะกดจิต” อาจจะฟังดูน่ากลัว แต่ก็ไม่เกินจริงเพราะนักการตลาดที่ดี จะต้องรู้จักการใช้หลักจิตวิทยาเข้ามาช่วยเสริมแกร่งให้กับโฆษณาและคอนเทนต์ของแบรนด์ไม่จม ไม่หาย เพราะในยุคที่การแข่งขันสูง รวมถึงมีโฆษณามากมายถูกยิงไปพร้อมกัน หากตัวคอนเทนต์ของเราไม่สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ ก็ถือว่าสูญเปล่า ทั้งพลังเงิน พลังสมองและพลังใจ มีหลักจิตวิทยาเรื่องอะไรบ้างที่จะช่วยสร้าง Brand Awareness & Brand Trust ได้ ► การเลือกใช้สี แต่ละแบรนด์ต้องมีสี Corporate Image หรือ CI กันอยู่แล้ว เพื่อใช้ในการออกแบบให้แบรนด์มีเอกลักษณ์และโดดเด่น แต่ในบางครั้งสี CI ของเราที่ใช้ทำภาพออกมาแล้ว อาจจะให้ความรู้สึกว่าแบรนด์ดูไม่ทันสมัย ดูโบราณ เราสามารถปรับโทนสีให้ดูเบาขึ้น สดใสขึ้น ด้วยสีที่เป็นเฉดเดียวกันในพาเลทสีเดียวกันของ CI แบรนด์ โดยยังคงให้โลโก้ของแบรนด์เป็นสีหลักได้ ภาพรวมก็จะออกมาดูดีขึ้น ตาม Mood & Tone ที่ตั้งใจจะสื่อสาร ► กระแสโซเชียลและเทรนด์จาก Influencer แรงกระตุ้นให้เกิดการซื้อขึ้นนั้น คงไม่พ้นจากคนรอบข้างของกลุ่มเป้าหมาย เพราะมากกว่า 80% คนมักจะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการตามที่เพื่อนแนะนำและบอกต่อ รวมถึงการใช้งานจากเหล่าดาราและ Influencer ก็เป็นอีกแรงขับให้เกิดความอยากซื้อมากขึ้น ► ซื่อสัตย์และโปร่งใส เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือในตัวแบรนด์ของเรา ต้องบอกทุกรายละเอียด อธิบายทุกความเป็นไปได้ของการใช้สินค้านั้น เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราเป็นคนที่ช่วยดูแล แก้ปัญหา ตอบข้อสงสัยของเขาในทุก ๆ ด้าน ► ให้ภาพเล่าเรื่อง Visual Storytelling หรือการใช้ภาพเล่าเรื่อง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ ทั้งยังเป็นการสะท้อนถึงตัวตน ภาพลักษณ์และความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย ► ได้รับประสบการณ์ที่ดี ไม่ว่าจะมาจาก คอนเทนต์ คุณภาพ ราคา การบริการ เป็นต้น ทุกส่วนที่เกี่ยวกับแบรนด์ถือว่าเป็น Experience ที่ลูกค้าจะได้รับ ดังนั้นแบรนด์จึงต้องวาง Branding Strategy ที่จะมาช่วยกำหนดทิศทางทั้งหมด …