เก๊กหล่อ ส่ง “เก๊กหล่อ เก๊กสวย เก๊กรวยทุกวัน แจกแสนทุกวัน แจกล้านทุกเดือน” พร้อมดันยอดโตอีก 10-12% ในไตรมาส 2
จากเปิดตัวที่ผ่านมากว่า 4 เดือน เก๊กหล่อเปิดตัวในตลาดเครื่องดื่มใน Segment ใหม่ ที่เรียกว่า Healthy Plus Segment เจาะกลุ่มเป้าหมายหนุ่มสาวออฟฟิศอายุ 25-35 ปี และกลุ่มผู้ใหญ่รักสุขภาพอายุ 36-40 ปี เพื่อเป็นการขับเคลื่อนธุรกิจในปีแรก โดยใช้ตัวสินค้าเป็นแกนหลักในการทำการตลาดและนำเสนอทางเลือกที่แตกต่างพร้อมมอบสิ่งที่ดี ให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศไปแล้วนั้น และสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดได้เลย 5% (จากกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีชา) ภายใต้การคุมบังเหียนนำทัพของ สรกฤต ลัทธิธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีสเพค วัน เบฟเวอเรจ จำกัด ล่าสุดเมื่อ 20 มีนาคม 2558 เก๊กหล่อก็ส่งแคมเปญโปรโมชั่นมาเอาใจผู้บริโภคที่รักสุขภาพและให้ความสำคัญกับเครื่องดื่ม “พรีเมี่ยม สมุนไพรแท้” ในชื่อว่า “เก๊กหล่อ เก๊กสวย เก๊กรวยทุกวัน แจกแสนทุกวัน แจกล้านทุกเดือน” เพื่อคืนความผ่อนคลายให้คนไทยทั่วประเทศ สรกฤต ลัทธิธรรม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีสเพค วัน เบฟเวอเรจ จำกัด เปิดเผยว่า เก๊กหล่อ ได้วางจำหน่ายมาเป็นระยะเวลา 4 เดือนแล้ว และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก ซึ่งมียอดการจัดจำหน่ายพุ่งสูงขึ้นในทุกๆ เดือน คิดเป็นยอดการเติบโตสูงและเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้คือโต 5% ในไตรมาสแรกปี 2558 ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากสำหรับการเจาะตลาดและเป็นเครื่องดื่มน้องใหม่ ใน Segment ใหม่ที่เก๊กหล่อกำลังนำเสนอให้ผู้บริโภคหันมาดูแลและเลือกดื่มเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพและเป็น “พรีเมี่ยม สมุนไพรแท้” ปล่อยหมัดเด็ดในซัมเมอร์นี้ด้วยโปรโมชั่นข้างต้น เพื่อดันยอด โดยผู้บริโภคที่ซื้อผลิตภัณฑ์เก๊กหล่อ สามารถร่วมลุ้นรางวัล ด้วยการส่ง SMS พิมพ์ GL ตามด้วยรหัสใต้ฝา ส่งมาที่หมายเลข 4642333 เพื่อลุ้นรับรางวัล มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาทรวม 3,908 รางวัล ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม ถึง 29 มิถุนายน 2558 แจกล้านทุกเดือน 4 เดือน รวมมูลค่า 4,000,000 …
94°Coffee คอฟฟี่ คาเฟ่ ปรับโฉมใหม่!!! ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Simply Luxury Living Room” ในงาน “94°Coffee Revival”
94°Coffee คอฟฟี่ คาเฟ่ แบรนด์ไทย จัดงาน “94°Coffee Revival” เปิดตัวโฉมใหม่ คอฟฟี่ คาเฟ่ แบบห้องนั่งเล่น รื่นรมย์ เรียบหรู สไตล์อิตาเลี่ยน ภายใต้คอนเซ็ปต์“Simply Luxury Living Room” บริหารงานโดย นางสาวนงนภา วงศ์วารี กรรมการบริหาร บริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด สายงานธุรกิจ ร้านกาแฟ (94°Coffee) ผู้บริหารหญิงเก่งที่มีเป้าหมายและมุ่งมั่นผลักดัน 94°Coffee ให้เป็นทางเลือกที่ดีกว่าในเรื่องกาแฟและเครื่องดื่มแก่ผู้บริโภค เปิดตัว เชฟตูน – ธัชพล ชุมดวง Guest Chef ของ 94°Coffee ที่มาร่วมสร้างสรรค์เมนูพิเศษ สำหรับรับรองลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายใน 94°Coffee พร้อม 2 หนุ่มเพื่อนซี้ เต๋า – เศรษฐพงศ์ เพียงพอ และ คชา – นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์ มาร่วมลงมือทำเมนูพิเศษให้แฟนๆ ได้ร่วมประมูลเพื่อนำรายได้ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายเพื่อสมทบทุนสร้างอาคาร “นวมินทรบพิตร 84 พรรษา” ซึ่งได้ยอดบริจาครวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 100,000 บาท มอบให้ศิริราชมูลนิธิ ปิดท้ายโชว์มินิคอนเสิร์ตจาก มาเรียม เกรย์ (มาเรียม บีไฟว์) ณ ร้านกาแฟ 94°Coffee (สาขา โกลเด้น เพลซ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม) โดย 2 หนุ่มเพื่อนซี้ เต๋า – เศรษฐพงศ์ เพียงพอ และ คชา – นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์ เผยต่อสื่อมวลชนว่า “เป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงาน “94°Coffee Revival” ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ 94°Coffee มากครับ สไตล์และการตกแต่งต่างๆ ก็สวยหรูดูดี แต่ก็มีความอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนเป็นห้องนั่งเล่น น่าจะมานัดพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ ได้ดีเลยครับ และนอกจากเมนูเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีความหลากหลาย ก็ยังมีอาหารเมนูอร่อยจาก “เชฟตูน” หรือ “พี่ตูน” ของเรา ที่พร้อมเสิร์ฟเวลาหิวอีกด้วย อยากให้ทุกคนมาลองครับ ในวันนี้เราสองคนยังได้มีโอกาสลงมือทำเมนูพิเศษให้แฟนๆ ได้ร่วมประมูลเพื่อนำรายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายสมทบทุนสร้างอาคาร “นวมินทรบพิตร 84 พรรษา” ศิริราชมูลนิธิ ด้วย ซึ่งถือเป็นโอกาสดีและอิ่มบุญกันถ้วนหน้าครับ” เชฟตูน – ธัชพล ชุมดวง” Guest Chef กล่าวว่า “ผมดีใจและเป็นเกียรติมากครับ ที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของร้าน 94°Coffee โฉมใหม่ในครั้งนี้ ผมทำการบ้านและเตรียมเมนูพิเศษไว้สำหรับรับรองลูกค้าคนพิเศษของ 94°Coffee โดยมีแรงบันดาลใจจากสไตล์ “Simply Luxury Living Room” ของพี่บี ซึ่งมีความหลากหลายในอารมณ์ มีความเป็นไลฟ์สไตล์ ตามเทรนด์อยู่เสมอ อยากเชิญทุกคนมาลองชิม และ ไม่อยากให้พลาดครับ” 94°Coffee ยังเอาใจแฟนคลับด้วยการจัด มินิคอนเสิร์ต จากหนุ่ม เต๋า …
โค้งสุดท้าย “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ปี 10” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมเงินรางวัลรวม 1,350,000 บาท
โครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ประจำปี 2559” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 1,350,000 บาท เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย 10 ทีมจาก 10 ชุมชน ได้เร่งพัฒนาโครงงาน โดยเน้นองค์ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาชุมชนก้าวไปสู่การเป็นชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืน นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงการประกวดโครงการกรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ที่ใกล้เข้าสู่การตัดสินเพื่อหาผู้ชนะจากทั้ง 10 โครงงานว่า “ธนาคารได้เห็นแนวความคิดที่ชัดเจนของแต่ละทีมที่นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาต่อยอดเพื่อให้โครงงานแข็งแรง และมีจุดบกพร่องน้อยที่สุด ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับธนาคารว่า 10 โครงงานจาก 10 ทีมสุดท้าย เมื่อจบการประกวด ธนาคารจะสามารถนำไปช่วยต่อยอดพัฒนาสินค้าให้ทัดเทียมกับสินค้าที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด อีกทั้งสามารถสร้างอาชีพให้ 10 ชุมชน อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี ถือเป็นความสำเร็จสูงสุดของโครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว” ที่ดำเนินการมาตลอด 10 ปี” ติดตามความเคลื่อนไหวและร่วมกันเชียร์น้อง ๆ ทั้ง 10 ทีมสุดท้าย ในโครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ประจำปี 2559” ได้ที่ www.ktb.co.th และ Facebook Fanpage KTBCare …
พี.โอ.แคร์ มั่นใจเชิ่ดใส่แดด เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ P.O Care Natural Sunscreen และ P.O Care Sun Block Expert Facial “กันแดดอย่างอ่อนโยนจากธรรมชาติ”
นิพา เดชมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.โอ.แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “P.O.CARE From Natural to the Sun (จากธรรมชาติสู่การปกป้อง)” ตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่ชัดเจนเหมือนเคย เพื่อนำเสนอความงามจากภายในสู่ภายนอก และการดูแลใส่ใจจากธรรมชาติอย่างแท้จริง กับ 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดP.O Care Natural Sunscreen (พี.โอ.แคร์ เนเชอรัล ซันสกรีน) และ P.O Care Sun Block Expert Facial (พี.โอ.แคร์ ซัน บล็อก เอ็กซ์เพิร์ท เฟเชียล) ตัวช่วยให้คุณกล้าเชิ่ดใส่แดดซัมเมอร์นี้ งานนี้ได้ “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” สาวสวยแห่งปี ผู้คว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ประจำปี 2016 และติดอันดับ TOP 6 บนเวทีสาวงามทั่วโลก เวที Miss Universe 2016 เป็นตัวแทนถ่ายทอดเรื่องราวพร้อมแชร์ประสบการณ์การดูแลผิวพรรณให้สวย กล้า ท้าแดด กับผลิตภัณฑ์ P.O Care Natural Sunscreen (พี.โอ.แคร์ เนเชอรัล ซันสกรีน) และบิวตี้บล็อกเกอร์ สาวสวย “Florence Room” ที่จะมาแนะนำเทรนด์การแต่งหน้าให้สวยใสแบบธรรมชาติกับโลชั่นกันแดดจากผลิตภัณฑ์ P.O Care Sun Block Expert Facial (พี.โอ.แคร์ ซัน บล็อก เอ็กซ์เพิร์ท เฟเชียล) ที่มีคุณสมบัติเป็นกันแดด พร้อมเมคอัพเบส ในขั้นตอนเดียว ปรับเฉดสีผิว อำพรางจุดบกพร่องบนใบหน้า ณ ร้าน เมลโล่ การ์เด้น (รามอินทรา) นิพา เดชมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.โอ.แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “บริษัท พี.โอ.แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิวพรรณ (Skin Care), ผลิตภัณฑ์ความงาม (Beauty Product) และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพกาย (Healthy Product) ที่ดีมีคุณภาพมีความปลอดภัย ประสิทธิผลสูงสุดแก่ผู้ใช้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 โดยมีแนวคิดจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับแสงแดดเป็นหลัก มุ่งสร้างผลิตภัณฑ์กันแดดที่ดีที่สุดเพื่อปกป้องสุขภาพผิวของผู้ที่ต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดดตลอดวัน เราจึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ P O CARE Aloe Sun Block ผลิตภัณฑ์กันแดดที่โดดเด่นและแตกต่างด้วยส่วนผสมของว่านหางจระเข้ที่สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ช่วยปกป้องแสงแดดพร้อมบำรุงผิวทุกครั้งที่ทา …
10 โครงงาน “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว” น้อมนำหลัก “เศรษฐกิจพอเพียง” ร่วมกันพัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืน
โครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ประจำปี 2559” รอบ 10 ทีมสุดท้าย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 1,350,000 บาท อยู่ระหว่างดำเนินโครงงานในชุมชน โดยธนาคารกรุงไทยมุ่งเน้นการปลูกฝังความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาชุมชนก้าวไปสู่การเป็นชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืน นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่สำรวจโครงงานของน้องๆ ทั้ง 10 ทีม ได้แก่ อำเภอกันทรวิชัย อำเภอกันทรารมย์ อำเภอบ้านดุง อำเภอบางกล่ำ อำเภอแก่งคอย อำเภอแม่ริม อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอบางบ่อ เขตบางกอกใหญ่ เพื่อดูความคืบหน้าโครงงานรวมถึงการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาโครงงาน โดยการทำงานร่วมกับชุมชนให้ตระหนักรู้ถึงประโยชน์ของการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ปรากฏว่าทุกทีมทำได้ดีมากสามารถปรับใช้ได้และทำงานร่วมกับชุมชนได้อย่างเหมาะสม “ด้านความพอประมาณ สามารถวิเคราะห์ชุมชน ของตนตามเวลา งบประมาณ และทรัพยากรในชุมชน มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนได้อย่างเหมาะสม ด้านความมีเหตุผล ช่วยในการเสริมสร้างศักยภาพของชุมชน ให้สามารถคิดและพึ่งพาตนเองได้ ด้านความรู้ความเข้าใจ มีความรู้ความเข้าใจในชุมชนของตนเอง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม พร้อมขยายความรู้นั้น ไปสู่ชุมชนใกล้เคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ด้านคุณธรรม การดำเนินโครงงานของทั้ง 10 ทีม ยึดถือการประกอบกิจกรรมต่างๆ ด้วยความถูกต้องและสุจริต ซึ่งถือเป็นหลักการสำคัญในการดำเนินชีวิต” การดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากช่วยในการส่งเสริมโครงงานของทั้ง 10 ทีมสุดท้าย ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างเยาวชนและคนในชุมชนเพื่อร่วมกันพัฒนาชุมชนให้ก้าวไปสู่ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี ถือเป็นความสำเร็จสูงสุดของโครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว” ที่ดำเนินโครงการมาตลอด 10 ปี นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ กล่าวปิดท้าย ติดตามความเคลื่อนไหวและร่วมกันเชียร์น้อง ๆ ทั้ง 10 ในโครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ประจำปี 2559” ได้ที่ www.ktb.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/krungthaibank/ …
ธนาคารกรุงไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม 10 ทีมสุดท้าย “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ปี 10” เพื่อพัฒนาโครงงานฯ ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ประจำปี 2559” ดำเนินมาถึงรอบ 10 ทีมสุดท้าย ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินโครงงานให้เกิดขึ้นจริงในชุมชน โดยเปิดโอกาสให้ 10 ทีมนำเสนอผลการดำเนินงาน 10 ชุมชน ต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อคัดเลือกทีมชนะเลิศ เดือนกุมภาพันธ์ 2560 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 1,350,000 บาท โดย นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินโครงการฯ ธนาคารได้ส่งทีมงานลงพื้นที่ ให้องค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพทางสังคมและเศรษฐกิจให้กับทั้ง 10 ทีมสุดท้ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ทั้ง 10 ทีม ใน 10 ชุมชน ได้ตระหนักถึงความสามารถของตนเอง มุ่งสู่เป้าหมายที่ต้องการ และก้าวไปสู่ชุมชนเข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต” ทั้งนี้ นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าของโครงงาน พร้อมให้คำแนะนำแต่ละโครงงานในพื้นที่นั้นๆ โดยให้อยู่ในหลักเกณฑ์และเป้าหมายโครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว” ที่ต้องการปลูกฝังความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนสามารถนำโครงงานไปเป็นแนวทางในการประกอบธุรกิจได้จริง ก่อนสรุปผลคะแนนในการลงพื้นที่ของทีมธนาคารกรุงไทย เพื่อตัดสินหาทีมชนะในรอบชิงชนะเลิศต่อไป ติดตามความเคลื่อนไหวโครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ประจำปี 2559” ได้ที่ www.ktb.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/krungthaibank/ …
ททท. มอบใบประกาศนียบัตรฯ ให้ 138 ร้าน รับรองมาตรฐาน 25 เมนูถิ่นทั่วประเทศ และ 6 เมนู Amazing Thai Taste การันตีรสชาติ ความสะอาด พร้อมบริการนักท่องเที่ยวมั่นใจถูกปากนักชิม
พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานอาหารในโครงการเสริมสร้างมาตรฐานอาหารถิ่น “สุขใจชวนกิน อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด” พร้อมด้วยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวรายงาน ณ ควอเทียร์ วอเตอร์ การ์เด้นท์ ชั้น 5 ดิ เอ็มควอเทียร์ ทั้งนี้ ททท. ได้ดำเนินโครงการเสริมสร้างมาตรฐานอาหารถิ่น “สุขใจชวนกิน อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด” เพื่อชูอาหารไทยในท้องถิ่นเพื่อเสริมกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว รวมถึงเป็นการผลักดันให้เป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวแบบวิถีไทย โดยร้านอาหารที่ได้รับการคัดเลือกต้องเป็นร้านที่ให้บริการอาหารถิ่นที่กำหนด มีรสชาติแบบดั้งเดิม ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น อร่อย สะอาด และถูกสุขลักษณะ ซึ่งได้กำหนดพื้นที่การดำเนินโครงการไว้ 29 จังหวัด แบ่งเป็น เมนูอาหารท้องถิ่น 5 ภาค ดำเนินการในพื้นที่ “12 เมืองต้องห้าม … พลาด” และ “12 เมืองต้องห้าม … พลาดพลัส” รวม 24 จังหวัด ในส่วนของเมนูอาหารไทยยอดนิยม จากโครงการ อะเมสซิ่ง ไทย เทสต์ (Amazing Thai Taste) ดำเนินการใน 5 จังหวัดหลักทางการท่องเที่ยว ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดภูเก็ต จังหวัดชลบุรี และกรุงเทพฯ โดยดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคมและเสร็จสิ้นในเดือนตุลาคม 2559 พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการเสริมสร้างมาตรฐานอาหารถิ่น “สุขใจชวนกิน อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด” ถือเป็นโครงการที่ดี ดังเห็นได้จากแนวคิดในการดำเนินการ มุ่งส่งเสริมให้อาหารท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นอาหารประจำภาค จนถึงอาหารประจำชาติ มีมาตรฐานรอบด้านและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้เปิดประสบการณ์ในการเลือกรับประทานอาหาร ตามเมนูอาหารถิ่น ต้องห้ามพลาดในทุกครั้งที่เดินทางท่องเที่ยว ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลดีให้กับการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจท้องถิ่น และเชื่อมั่นว่ามาตรฐานที่ทุกร้านอาหารได้รับวันนี้ จะเป็นสิ่งยึดมั่นในการประกอบธุรกิจ ให้มีมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง และเป็นเสมือนตัวแทนของประเทศ …
ธนาคารกรุงไทย ส่งวิทยากรพิเศษลงพื้นที่ Coaching 10 ทีมสุดท้าย ใน “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ปี 10” เพื่อพัฒนาศักยภาพโครงงาน ปลดล็อคข้อจำกัด ก้าวสู่ชุมชนเข้มแข็ง
โครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ประจำปี 2559” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 1,350,000 บาท ดำเนินมาถึงรอบ 10 ทีมสุดท้าย ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินโครงงานให้เกิดขึ้นจริงในชุมชน และจะนำเสนอผลการดำเนินงาน ต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อคัดเลือกทีมชนะเลิศ ในวันที่ 19 ธันวาคม นี้ นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม สายงานสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ส่งทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญพิเศษลงพื้นที่ ให้องค์ความรู้และสร้างศักยภาพทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ที่มุ่งเน้นด้านผลลัพธ์ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าและแนะนำทั้ง 10 ทีม ร่วมผลักดันให้ชุมชนเข้มแข็งขึ้น “ล่าสุด ทีมวิทยากรได้ไปเยี่ยมชม ทีม RCC ACCOUNT จากวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราชดำเนิน ที่ดำเนินโครงงานเรื่อง “รู้คิด รู้ทำ สร้างสรรค์สังคม” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ความรู้ด้านการทำบัญชีให้กับชุมชน โดยทีมวิทยากรได้ให้คำปรึกษา การพัฒนาโครงงาน ชี้แนะแนวทางแก้ไขปัญหาที่พบในชุมชน รวมถึงเปิดมุมมองใหม่ เปลี่ยนข้อจำกัด ให้เป็นโอกาส ซึ่งมีคนในชุมชนและผู้นำชุมชนใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 100 คน” ติดตามความเคลื่อนไหว โครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ประจำปี 2559” ได้ที่ www.ktb.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/ktbcare …
ซีแพค สร้างสรรค์ประโยชน์อย่างยั่งยืน เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นำคอนกรีตที่เกินเหลือจากการจัดส่งให้กับลูกค้า เนรมิตพื้นที่ความสุข ผ่านโครงการ ลานเพลินซีแพค หนึ่งล้านตารางเมตร “999 ลานเพลินซีแพค ปันความสุข สู่ชุมชน”
บริษัทผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด หรือ “ซีแพค” ในธุรกิจเอสซีจี ซิเมนต์ – ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (SCG Cement – Building Materials) ดำเนินธุรกิจภายใต้อุดมการณ์ของ เอสซีจี ในข้อที่ว่า “ถือมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม” เป็นสิ่งสำคัญ โดยตลอดระยะเวลากว่า 64 ปี ซีแพค มีปณิธานอันมุ่งมั่น สร้างประโยชน์ต่อชุมชนเพื่อให้เติบโตไปพร้อมกัน สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของสังคมโดยรวม ล่าสุด ทาง ซีแพค ได้ลงพื้นที่ ณ โรงเรียนวัดคลองตาคล้าย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เพื่อปูแผ่นพื้นลานเพลิน ในงานลานเพลินซีแพค หนึ่งล้านตารางเมตร “999 ลานเพลินซีแพค ปันความสุข สู่ชุมชน” ด้วยความมุ่งมั่นของ ซีแพค ในการสร้างประโยชน์แก่ชุมชนรอบข้าง พร้อมความร่วมมือของพนักงาน ผู้ร่วมธุรกิจ และชุมชนในแต่ละพื้นที่ สร้างจิตสำนึกในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลชุมชนและสังคมไทยให้ยั่งยืน ภายใต้ โครงการ “ลานเพลินซีแพค หนึ่งล้านตารางเมตร” จึงได้ถือกำเนิดขึ้น นับตั้งแต่ ปี 2554 เป็นกิจกรรมเพื่อสังคมของ ซีแพค ที่ในวันนี้เป็นภาพปรากฏชัดเจนและสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจผลิตคอนกรีตผสมเสร็จมากยิ่งขึ้น โดยวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ เพื่อสร้างความยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนในสังคม, ชุมชนระยะยาว สืบเนื่องจากการดำเนินธุรกิจและลดภาระในการหาวิธีกำจัด หากนำไปทิ้งก็ยากต่อการย่อยสลาย และสร้างพิษมลภาวะต่อสังคมและประชาชน ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารและพนักงาน ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ได้ผ่านกระบวนการคิดด้วยความรับผิดชอบ ได้มองว่าจะมีกระบวนการจัดการอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงนำเอาคอนกรีตที่เกินจากการจัดส่งให้กับลูกค้ามาใช้ประโยชน์หล่อเป็นแผ่นพื้นคอนกรีตและเชิญชวนชุมชน ลูกค้า เข้ามามีส่วนร่วม ช่วยกันทำปูแผ่นพื้นคอนกรีตเป็น “ลานเพลิน” เป็นพื้นที่ทำประโยชน์มอบให้ทุกคนในชุมชน วัด และโรงเรียน โดยใช้ “ลานเพลิน” เป็นพื้นที่ในการทำกิจกรรมร่วมกัน ที่มุ่งประโยชน์ต่อสังคมที่ยั่งยืน และก็นำสิ่งนี้มาแปรรูปให้มันเป็นมูลค่าด้านการพัฒนา ด้าน นายปรัชญา ไอศูรย์ธนเศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (ซีแพค) เผยว่า ณ วันนี้ ความสำเร็จของโครงการลานเพลินซีแพคฯ นับต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 ซีแพค สามารถส่งมอบ “ลานเพลินซีแพค” คืนกลับให้ชุมชนและสังคมรวมถึง 999 แห่ง เป็นพื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตร เทียบเป็นปริมาณคอนกรีตเท่ากับ 25,000 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นจำนวนเที่ยวขนส่งคอนกรีตได้ 5,000 เที่ยว หรือหากนำรถโม่ผสมคอนกรีตมาวางเรียงต่อกันรวมเป็นระยะทางถึง 40 กิโลเมตร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ดำเนินกิจกรรม ชุมชนรอบข้างซีแพคได้ให้ความสำคัญและเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่สร้าง “ลานเพลินซีแพค” ให้เป็น“ลานเพลินของชุมชน” มากถึง 20,000 คน โดยโครงการดังกล่าว สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจาก ซีแพค มีโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จกระจายอยู่ทั่ว ทุกพื้นที่ของประเทศมากกว่า 350 โรงงาน และมีพนักงานจิตอาสาในแต่ละพื้นที่ พร้อมช่วยเหลือทำประโยชน์ให้กับชุมชนรอบโรงงานที่ตนอยู่อาศัย โดยมีบริษัทฯ ให้การสนับสนุนในงบประมาณ จึงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน“ลานเพลินซีแพค” ให้พนักงานและทุกคนในชุมชนมีส่วนรับผิดชอบร่วมกันเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเป็นมิตรต่อกัน นำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้กับพนักงาน ซีแพค ที่ได้มีโอกาสเติมเต็มความสุขและได้ช่วยเหลือสังคม โครงการ “ลานเพลินซีแพค หนึ่งล้านตารางเมตร” จึงเป็นกิจกรรมที่ ซีแพค ทำเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่องและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชน เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมสืบไป “ลานเพลินซีแพค” จะยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการร่วมพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดย ซีแพค ยังคงมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะดำเนินโครงการฯ …
“ธนาคารกรุงไทย” ได้ 10 ทีมสุดท้ายเข้ารอบ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ประจำปี 2559” เตรียมติวเข้ม เพื่อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมเงินรางวัลรวม 1,350,000 บาท
นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม สายงานสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร ธนาคารกรุงไทย เป็นประธานและร่วมแสดงความยินดีในงานประกาศผล 10 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบการประกวดโครงงานเพื่อพัฒนาธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง กับโครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาวประจำปี 2559” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมเงินรางวัลรวม 1,350,000 บาท ในกิจกรรม “The Following Camp” ที่จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้ด้านการพัฒนาแผนการดำเนินธุรกิจกับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ โดยมี นายจิรวุธ เวทยาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารฝ่าย ฝ่ายกิจการเพื่อสังคม ธนาคารกรุงไทย, นางพรหมมัฏฐมน พิบูลศิริ ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายกิจการเพื่อสังคม ธนาคารกรุงไทย และนายสกลชัย เรืองพลรณชัย รองผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายกิจการเพื่อสังคม ธนาคารกรุงไทย ร่วมแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ผ่านเข้ารอบ ณ โรงแรมแอมบาสเดอร์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้ โด ย 10 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบ ได้แก่ ทีมต้นกล้าเพชรบุรี โรงเรียน พรหมานุสรณ์ จังหวัดเพชรบุรี โครงงาน : ชะเย้โพลง พริกแสบสรร ผันชีวิต ทีมเห็ด Strong วิทยาลัยอาชีวศึกษา จังหวัดอุบลราชธานี โครงงาน : เพิ่มมูลค่าก้อนเชื้อ พัฒนาชุมชนสู่วิถีพอเพียง ทีมน้ำพริกเผาเพื่อสุขภาพ วิทยาลัยอาชีวศึกษา จังหวัดสระบุรี โครงงาน : น้ำพริกเผาลดโซเดียมและน้ำตาล โดยใช้หล่อฮังก๋วย ทีมเตรียมน้องสมุทรรวมใจ ช่วยไทยยั่งยืน โรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้า จังหวัดกรุงเทพมหานคร โครงงาน : เลี้ยงกุ้งด้วยชีววิถี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกุ้งปลอดสารเคมีสู่ชุมชนและชีวีที่ยั่งยืน ทีมพานพุ่มสักการะ จากการขดสานตอกไม้ไผ่ วิทยาลัยอาชีวศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ โครงงาน : พานพุ่มสักการะ จากการขดสานตอกไม้ไผ่ ทีม RCC Account วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราชดำเนิน จังหวัดกรุงเทพมหานคร โครงงาน : รู้คิด รู้ทำ สร้างสรรค์สังคม ทีม จิกกะลาโมเดล โรงเรียนกันทรารมณ์ จังหวัดศรีสะเกษ โครงงาน : จิกกะลาไม่มีหนี้ ชีวีพอเพียง ทีม ร.ร.สาธิตมหาวิทยาลัย มหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม โครงงาน : เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ ตลาดโรงเรียน ยั่งยืนสู่ชุมชน ทีม เยาวชนรักบ้านเกิด โรงเรียนบ้านดุงวิทยา จังหวัดอุดรธานี โครงงาน : สืบสานภูมิปัญญานานาเกลือกก มรดกบ้านดุง ทีม คนจริงถิ่นใต้ วิทยาลัยเทคโนโลยีวชิราโปลีสงขลา จังหวัดสงขลา โครงงาน : แสงส่องทาง “น้ำบูดูบ้านดินลาน” สู่ตลาดที่ยั่งยืน โดย 10 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ จะได้ดำเนินโครงงานจริงและมีผู้บริหารธนาคาร ในแต่ละพื้นที่ เข้าร่วมสังเกตการณ์และให้คะแนน ซึ่งแต่ละทีมจะต้องสรุปผลการดำเนินโครงงานและเสนอต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งรอบตัดสินจะจัดขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม 2559 ติดตามความเคลื่อนไหว โครงการ “กรุงไทยต้นกล้าสีขาว ประจำปี 2559” ได้ที่ www.ktb.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/ktbcare …