เห็นด้วยไหม ? การใช้แอปพลิเคชั่นแต่งภาพ ทำให้คนขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง
จากพาดข้อความในภาพเรากำลังจะสื่อสารถึงอีกหนึ่ง PR Campaign ที่ประสบความสำเร็จจาก Dove โดยแคมเปญนี้มีชื่อว่า ‘Reverse Selfie’ เป็นแคมเปญสื่อสารผ่านวิดีโอเพื่อนำเสนอให้ผู้ชมได้เห็นผลกระทบจากการใช้แอปแต่งภาพ ซึ่งวิดีโอนี้มาจากการวิจัยของ Dove ที่ว่า 85% ของเด็กและเยาวชนในยุคแห่ง Application นั้นขาดความมั่นใจ ไม่เคารพและนับถือในคุณค่าของตนเอง นับแต่มี Application แต่งหน้า แต่งภาพ ขึ้นมา นอกจากนี้กว่า 67% ยังพบอีกว่าเยาวชนโดยเฉพาะผู้หญิงพยายามที่จะแต่งภาพเพื่อเก็บซ่อนเร้นในสัดส่วนที่ตนเองไม่พึงพอใจหรือไม่มั่นใจก่อนจะโพสต์ภาพหรือคลิปลงโซเชียลมีเดีย Dove จึงต้องการสร้าง PR Campaign ที่ชวนกระตุกเรียกให้สาว ๆ สนใจ และให้สังคมตระหนักในเรื่องนี้ จากสิ่งที่มองว่าหากปล่อยไว้ไปแบบนี้อาจจะทำให้เกิดภาวะวิกฤตขึ้นได้ พร้อมกับเสนอโครงการ Dove Self-Esteem เป็นข้อมูลเพื่อให้เยาวชนสามารถดาวน์โหลดได้ทางออนไลน์เพื่อขอรับคำแนะนำในการใช้โซเชียลมีเดียได้อย่างเข้าใจ และเข้าใจโลกของการรีทัชได้ดีขึ้น พร้อมนำเสนอภาพในแคมเปญผ่านโซเชียลมีเดียของ Dove สร้าง Impact อย่างต่อเนื่อง มาดูกันว่าความสำเร็จจาก PR Campaign มีโครงสร้างอะไรที่ Dove ใช้และเป็นความสำเร็จในวงกว้าง แคมเปญ PR นี้เกิดขึ้นจากผลวิจัยและปัญหาที่กำลังจะเกิดที่มีโอกาสเป็นผลกระทบต่อผู้คนในวงกว้าง การสร้างเครื่องมือในการ Communicate ผ่านเครื่องมือที่ Powerful ที่สุดคือวิดีโอคอนเทนต์ การสร้าง Engagement โดยดึงพลังของชาวโซเชียลเข้ามามีส่วนร่วมในการปลุกกระแสที่เห็นร่วมด้วย การอัปเดต Result ของความ Impact จาก Campaign PR นี้ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของ Dove อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นบริบทของการตอบรับอย่างกว้างขว้าง นี่คือพลังแห่ง Dove และ Campaign การใช้สื่อโหมโปรโมทและขานรับใน Campaign นี้ …
จะใช้ TikTok สร้าง Branding ได้ยังไง ?
ตอนนี้ TikTok คือ โลกปัจจุบัน ทุกการ Search ทุกการขายแทบจะมี TikTok เป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในยุคสมัยหนึ่งการสร้างแบรนด์คือการทำเว็บไซต์ การทำ OHM และการออกสื่อในรายการทีวี แต่ยุคนี้ทุกแบรนด์ต้องรีบมูฟเข้ามาสร้างตัวตนใน TikTok มีเทคนิคทางลัดอะไรมาเป็นไอเดียแชร์กันบ้าง วางจุดยืนเราให้ชัดเจนก่อนว่าแบรนด์เราเท่ากับอะไร ด้วยคำอธิบายที่สั้นง่ายกระชับเข้าใจได้ง่าย พร้อมวาง Personality ของเราว่าจะเป็นคนสนุกแค่ไหน จะทางการแค่ไหนในการทำคอนเทนต์สื่อสาร วางแผนคอนเทนต์ให้ดีว่าจะถ่ายอะไรแบบไหนยังไง เป็นแนวคลิป เป็นแนวไลฟ์พูดคุยหรือเป็นแนว wrap up สรุปจากเขามาอีกที ค่อย ๆ ทำคอนเทนต์ ฟีดเข้าไปเรื่อย ๆ เพื่อจับทางว่าคอนเทนต์แบบไหนที่คนชอบ โพสต์เวลาไหนที่คนถูกใจ เพื่อมาปรับเปลี่ยนให้เป็นสไตล์ที่ Effective ที่สุด เมื่อเริ่มมีตัวตนมี Follower แล้วคนเริ่มติดตามแล้ว ลองพุดคุยกับ TikTok Creator ด้วยกันเพื่อมา Collaboration กันทำคอนเทนต์ เพื่อกระจายการรับรู้และเปลี่ยนฐานแฟนกันและกัน …
ทำ PR Awareness แคมเปญมีสเต็ปยังไงบ้าง ?
ทำ PR Awareness แคมเปญมีสเต็ปยังไงบ้าง ? อยากจะเริ่มต้นสร้าง PR Awareness Campaign ในช่องทาง Social Media ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เริ่มแบบไหนดี โพสต์นี้มีหัวข้อมาให้เช็คลีสต์ต่อไปนี้ รู้ให้ชัดว่าแคมเปญนี้ทำไปเพื่ออะไร บนวัตถุประสงค์อะไร เช่น แบรนด์ไม่เป็นที่รู้จักต้องการสร้าง Awareness เหมือนที่ระบุหัวข้อไว้นั้น ก็ต้องชัดเจนว่า สร้าง Awareness นะ พอรู้ชัดแล้วว่า จะทำ Awareness แล้วเราจะสื่อสารแคมเปญนี้ไปที่ใคร กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัด ไม่เพียงแค่ เพศ อายุ วัย แต่ควรจะลงดีเทลให้ชัดเจนสอดคล้องกันเดต้าของลูกค้าที่เรามีและอยาก recheck เลือกให้ชัดว่าช่องทางไหนคือช่องทางหลักที่จะปล่อยแคมเปญ เช่น ปล่อยใน Facebook Page และจะใช้ช่องทางไหน Support Campaign และ TikTok เป็นต้น การจะทำแคมเปญ Awareness ให้มีโอกาสเกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้นยังหนีไม่พ้นการให้ Benefit อะไรบางอย่างในการเรียกความสนใจในการมีส่วนร่วม อาจจะมี Voucher ส่วนลด หรือ Lucky draw เป็นต้น ออกแบบและเตรียมคอนเทนต์ที่จะสื่อสารแคมเปญนั้น Ad หลักและคอนเทนต์ Support ให้น่าสนใจและสอดคล้องกับพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย Monitor อยู่เสมอเพื่อปรับแผนในระหว่างทางให้ Campaign Effective ที่สุด …
ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากความรับผิดชอบอย่างเดียว แต่จะสำเร็จได้ไวต้องมีความชอบในสิ่งที่ทำขั้นสูง
ไม่มีใครไม่อยากประสบความสำเร็จ และหลาย ๆ คนก็อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง มีตำแหน่งที่หน้าการงานที่สูงขึ้น มีเงินเดือนที่มากขึ้น มีรายได้ที่ดีขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาได้ด้วยการบ่น การจมกับความทุกข์จากปัญหาในงาน แต่มันคือการเข้าใจ ปรับตัวและหาวิธีทำงานนั้น ๆ ให้เกิดเป็นความสำเร็จให้ได้ มากกว่าความสำเร็จ มันยังมี ‘ความสำเร็จแบบก้าวกระโดด’ ให้เห็นจากที่มีคนทำสำเร็จไว้จำนวนมาก มาดูว่า แนวคิดแบบไหนที่จะสร้างโอกาสให้กับคุณ เพราะเชื่อว่า ทุกอย่างเริ่มต้นที่ Mindset คือแนวความคิดที่มีต่อสิ่งนั้น ๆ สร้างผลงานสำเร็จ ผลงานสร้างชื่อให้กับคุณ เพราะถ้าไม่กล้าสร้าง ไม่กล้าแตกต่าง ไม่มีผลงานที่ปรากฏให้เห็นได้ชัด ก็ไม่เป็นโอกาสที่จะทำให้คุณสำเร็จในก้าวต่อไปได้อย่างก้าวกระโดด สร้างกำลังในวันที่หมดแรง มันคือเรื่องจริง มันเป็นไปไม่ได้ที่ทุก ๆ วันจะมีแต่ความสุข จะเจอแค่ความราบรื่น ไร้ปัญหา เพราะในการทำงาน องค์ประกอบหนึ่งคือ ‘คน’ ซึ่งแน่นอนว่า ทำกับคน คือ ชาเลนจ์หลัก ๆ แทนที่จะเอาปัญหามาบั่นทอนเป็นความทุกข์ใจ หัดเปลี่ยนมุมมองเป็นหาข้อดี ความสุขในอีกมุมที่เราได้รับจากงานนั้น ๆ เลิกกังวลและกลัวความผิดพลาด บางครั้งการที่เราผิดพลาดในเรื่องนั้น ๆ มันคือยาและภูมิคุ้มกันที่ดี ผิดแล้วแก้ไขยังไง แก้ไขได้แล้ว เราก็จะผ่านด่านนี้และมีประสบการณ์ มีแต้มบุญจากเรื่องนี้ รู้ว่า จริง ๆ มันแก้ไขได้ มันมีวิธีแก้ไขทั้งนั้นในทุกเรื่อง และเข้าใจซะทีว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ถึงแม้จะวางแผนไว้อย่างดี เห็นคุณค่าตัวเองและให้เกียรติสิ่งที่ตัวเองทำ เพราะถ้าตัวเราเองไม่เห็นคุณค่าตัวเอง ไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองทำ แล้วอย่างนี้เราจะไปต่อกับสิ่งนั้นอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ไม่หัดเป็นคนโทษทุกสิ่งรอบตัวยกเว้นตัวเอง การสำรวจตัวเองให้รอบด้านและยอมรับว่าตัวเองว่าไม่สมบูรณ์แบบก็เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญ เคยได้ยินประโยคนี้ไหม การเป็นคนที่มั่นใจมาก มากจนใครเตือนก็ไม่ฟังคือความอันตรายชนิดหนึ่ง ฉะนั้นเมื่อทำเต็มที่แล้ว (เต็มที่จริงๆ) นะ แล้วมีอะไรผิดพลาดอย่าโทษทุกสิ่งรอบตัว แต่ให้หัดสำรวจตัวเอง สำรวจรายละเอียดว่ารูรั่วคือตรงไหน แล้วแก้ไขมันให้ดีที่สุด …
คุณค่ามุมบวกเป็นอีกด้านที่ส่งเสริมความน่าเชื่อถือและโดดเด่นให้แบรนด์ อย่าง IKEA #StayHome
คุณค่ามุมบวกเป็นอีกด้านที่ส่งเสริมความน่าเชื่อถือและโดดเด่นให้แบรนด์ อย่าง IKEA #StayHome เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้าน Home Decor & Inspiration ที่เมื่อช่วงของโรคระบาดที่ผ่านมานั้น ได้นำเสนอคุณค่าของบ้านและแบรนด์ผ่านแคมเปญ PR ในคุณค่ามุมบวกเพื่อส่งเสริมความน่าเชื่อถือ ความสำคัญของแบรนด์ ยิ่งในภาวะที่ทุกคนจะต้องอยู่บ้าน หรือที่พักอาศัยมากขึ้น ที่ ณ ตอนนั้น บ้านไม่ใช่แค่การพักอาศัย พักผ่อน แต่ยังเป็นนพื้นที่ของความปลอดภัยมากที่สุด นำเสนอเชิงสร้างสรรค์เป็นคุณค่าเพื่อเชิญชวนให้ทุกคนงดออกจากบ้าน งดการออกไปสังสรรค์และอยู่ในบ้านอย่างมีความสุขและปลอดภัย มากไปกว่านั้น สร้างให้บ้านมีจิตวิญญาณ ใช้เป็นที่ทำงาน จุดประกายจินตนาการอย่างรู้คุณค่าไปพร้อมกัน ใช้ เครื่องมือหลัก คือ หนังโฆษณาตัวใหม่ ที่นำเสนอภาพให้เห็นคุณค่าของบ้านได้อย่างชัดเจน การที่ IKEA เลือกทำหนังโฆษณาชุดนี้ ขึ้นมาในช่วงเวลาที่เหมาะสมนั้นส่งเสริมให้ยิ่งกระตุ้นคุณค่าของแบรนด์ได้ขึ้นมาอีกมหาศาล และการเลือกเครื่องมือที่ได้รับความนิยมสูงอย่างวิดีโอและมีโอกาส Generate Engagement ได้สูง ทั้งแง่ของ Benefit และ Emotional ยิ่งส่งพลังให้ PR Campaign นี้ประสบความสำเร็จ เรียกว่า ถูกที่ ถูกเวลา ถูกคอนเทนต์และถูกใจ …
Touchable Marketing คืออะไร ? พามาทำความรู้จักเพื่อให้ใช้ได้อย่าง Effective
Touchable Marketing คืออะไร ? พามาทำความรู้จักเพื่อให้ใช้ได้อย่าง Effective Touch point คำนี้ไม่ใหม่แล้วในวงการดิจิทัล แต่ก็อาจจะยังมีหลายท่านที่ยังไม่แน่ชัดว่า Touch point ดียังไง สำคัญยังไง และต้องนำมาใช้ในการทำ Digital Marketing อย่างไร Touch point คือช่องทางการสื่อสารที่ลูกค้าสามารถมีการพูดคุยสื่อสารหรือตอบโต้กับแบรนด์ของคุณได้โดยตรง ไม่จำกัดช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ ขึ้นกับว่าแบรนด์คุณจะกำหนดช่องทางไหนสร้าง Touch point กับลูกค้า Touch point มีความสำคัญในฐานะ ด่านแรกที่จะเกิดการสัมพันธ์กับลูกค้า และนี่คือจุดที่จะสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกให้ลูกค้า รักษาความประทับใจของลูกค้า นอกจากนี้ Touch point ยังเป็นเครื่องมือในการเช็คพฤติกรรมการ Connect ของลูกค้ากับเรา เช่น ชอบมาถามอะไร ถามเวลาไหนและถามเรื่องอะไร เพื่อนำมาพัฒนาเป็น Marketing Campaign, Product ใหม่ ๆ Touch point ที่ดี มีโจทย์สำคัญคือ สร้าง Great Experience ให้กับลูกค้า ด้วย 3 States Awareness ให้ข้อมูลที่ชัดเจน ครบถ้วนกับลูกค้าที่ยังไม่รู้จักเรา Dicision เมื่อพวกเขารู้จักแล้วและมาถามเพื่อต้องการข้อมูลประกอบการจัดสินใจซื้อ Retention รีเช็ค Feedback หลังการขาย การมารับบริการต่าง ๆ หรือการมอบ Loyalty program ที่เหมาะสมกับแต่ละลูกค้า นี่แหละคือความสำคัญของ Touch point ที่สร้าง Touch point – Marketing ที่ดี ถูกใจ ลูกค้า …
ถอดความสำเร็จและเรียนรู้จาก PR Campaign อย่าง LEGO Rebuild the World เมื่อของเล่นขอมีส่วนร่วมสร้างโลกใหม่
ย้อนไปเมื่อปี 2019 มีบริษัทของเล่นระดับโลกที่เปิดตัวแคมเปญ PR ขึ้นมา นั่นคือ LEGO ในชื่อ ‘Rebuild the World’ ถือเป็นแคมเปญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ LEGO ในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว โดยแคมเปญนี้เกิดขึ้นจากการศึกษาพฤติกรรมของเด็ก ๆ ชาวอังกฤษ ที่หยิบ iPad ขึ้นมาดูอยู่บ่อย ๆ แทนการเล่นของเล่นตามวัย มาดูกันว่า LEGO มีการวางแผนและนำเสนอแคมเปญ PR นี้ให้สำเร็จได้อย่างไรบ้าง ? คิดจาก Pain Point และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย วางเป้าหมายของแคมเปญ PR ให้ชัดเจน โดย LEGO นั้น ตั้งใจสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่ LEGO ไม่ใช่แค่ของเล่นเด็กอีกต่อไป แต่คือเครื่องมือที่เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ Set Storyline ของ Product ให้สอดคล้องกับเทรนด์และเทคโนโลยี เลือกนำเสนอแคมเปญ PR ผ่าน Online to Below The Line จากวิดีโอคอนเทนต์ มีการเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับ Present โลกใหม่ ในมุมของ LEGO ตามแคมเปญและคอนเซปต์ด้วย มีการ Survey วัดผลความสำเร็จของแบรนด์ ผ่านความน่าเชื่อถือ คุณภาพสินค้า ความโดดเด่น และ LEGO ประสบความสำเร็จ ครองอันดับ 1 จากการสำรวจ Superbrand ของชาวอังกฤษ …
ไม่มีผลลัพธ์อะไรใหม่ ได้จากการอยู่ในกรอบเดิม ทำแบบเดิม ต้องกล้าเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ บ้าง
ในการทำงานไม่ว่าจะอาชีพไหน ตำแหน่งไหน บทบาทไหน แน่นอนมันจะมีวันที่ราบรื่น สงบ เรียบง่าย มีความสุข เช่นกันมันจะมีวันเครียด อยู่ไม่น้อย การทำงานแล้วมีทุกมิติเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากเป็นเรื่องเครียด ถ้าทำงานแล้วเครียดถือว่าเป็นภาวะปกติ แต่ถ้าไม่สามารถจัดการความเครียดได้แล้วพกกลับไปบ้านด้วยทุกครั้ง ไม่ยอมวางลงถือว่าไม่ปกติ นั่นเป็นนัยยะว่าคุณกำลังเอาความเครียดจากงานมาปะปนกับชีวิตส่วนตัวของคุณหลังเลิกงานอยู่ มีหลาย ๆ สื่อออกมาเขียนเรื่อง การจัดการความเครียด เราเลยขอรวบรวมและมาเขียนในมุมมองของเราด้วยเช่นกัน เครียดก็ยอมรับว่า ‘เครียด’ คือการที่เราเข้าใจว่า ณ ขณะนี้ เรากำลังรู้สึกอะไรอยู่ รู้ให้เท่าทันจิตและความรู้สึก ต้องสำรวจตัวเองด้วยว่าเราทำเต็มที่แล้วหรือยัง สิ่งนี้เราทุกคนสามารถรู้ได้ด้วยตนเอง หากเราทำเต็มที่แล้ว เลิกเครียดแล้วไป หาความสุขเรื่องใหม่เข้ามาทดแทน เพราะบางเรื่องเครียดไปก็เป็นเรื่องที่เราจัดการแก้ไขไม่ได้ หรือบางครั้งก็เปลี่ยนความคิดไปเลย ไม่ต้องเครียด ไม่ใช่เรื่องใหญ่แค่เป็นความท้าทาย หัดมองหาความสุขอื่น ๆ ในการทำงาน ไม่มีหรอกองค์กร ‘ยูโทเปีย’ ทุกที่มีปัญหา มีความเครียด มีความสุขตาม Culture ของแต่ละองค์กร เคยได้ยินบ้างไหม เพื่อนที่บ่นบริษัทให้ฟังบ่อย ๆ บอกจะไม่ทนแล้วแต่ก็ทำมาได้เป็น 10 ปี ฝึกหาข้อดีในมัน ลองสร้างงานให้เป็นความชอบดู เพราะเมื่อไหร่ที่ชอบจะสนุก อยากทำ ไม่เบื่อ แต่ถ้าคิดแต่ว่า มันคือ งาน งาน งาน แน่นอนว่าจบเห่ ถ้าตราบใดที่งานนั้นยังให้คุณค่าอะไรกับคุณบางอย่าง ลองสร้างมันให้เป็นความชอบดู ออกไปเจอคนใหม่ เพื่อนบ้าง ไปลองฟังเขาดูบ้าง ว่าเขาเจออะไร เป็นแบบไหน ได้แลกเปลี่ยนแนวคิด บางครั้งยิ่งเราคิดว่ามันเป็นปัญหาที่ใหญ่ของเราแล้ว ไปฟังเรื่องเพื่อนอาจจะเปลี่ยนใจมาพูดกับตัวเองว่า เราก็โชคดีอยู่ไม่น้อย ทุกอย่างมันขึ้นกับทัศนคติชุดข้อมูลที่คุณป้อนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไร ดี หรือ ร้าย กับคุณ มันคือเรื่องเล่าที่ดีเสมอ เพราะว่ามันเป็นประสบการณ์ที่จะหลอมให้คุณดีขึ้น เก่งขึ้น พัฒนาขึ้น อย่ากลัวที่จะเผชิญกับความผิดพลาด และอย่าคาดหวังที่จะได้รับแค่ ‘ชอบ’ อย่างเดียว ไม่งั้นเขาคงไม่เอา ‘รับผิดชอบ’ มาไว้ด้วยกัน อย่าตีกรอบตัวเองว่าทำแค่นี้พอ ให้เปิดใจไปเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เพราะถ้าคุณเข้าใจครบทุกมิติ คุณอาจจะค้นพบความเก่งของตัวเองหรือความชอบใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาท้าทายให้คุณได้เปลี่ยนงานหรือทำงานได้สนุกมากขึ้น …
ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ทำแบบนี้แล้วธุรกิจคุณจะสำเร็จ
เหล่า CEO ควรทำธุรกิจแบบไหน ให้เข้าใกล้ความสำเร็จ จะทำธุรกิจต้องทำเป้าหมายให้ชัด เพราะนี่คือตัวที่จะเป็น ‘แก่น’ เป็นสิ่งที่คุณยึดเหนี่ยว เป็นคุณค่าที่จะผลักดันและเป็นข้อความสื่อสารที่คุณจะถ่ายทอดทัศนคติ แนวคิดนี้ไปยังทีมของคุณ ทำธุรกิจด้วยกลยุทธ์บนจุดแข็ง ‘สร้างให้แตกต่าง’ ไม่แข่งขันด้านราคา เพราะยิ่งคุณเป็นธุรกิจเริ่มต้นใหม่ทุนบาง คุณต้องวางกลยุทธ์หาจุดแข็งของคุณด้านอารมณ์ เพื่อบิ้วเป็นความเชื่อของคนให้ได้ อย่าไปแข่ง ‘สงครามราคา’ ยังไงก็แพ้กลุ่มยักษ์ใหญ่ ด้วยทุน ด้วยคน ด้วยเทคโนโลยี เขา copy paste ขายแทนคุณได้อย่างง่ายและรวดเร็ว กฏ 80/20 ต้องเข้า เน้นทุกอย่างให้เกิดยอดขายให้ได้ หา Product Hero ที่จะสร้างยอดขาย 80% ให้คุณให้ได้ แล้วมุ่งเป้าการพัฒนาไปที่สิ่งนั้นให้เติบโต หา DNA ให้ชัด ไม่ใช่ DNA ที่แค่คุณเชื่อ แต่ต้องมีลูกค้าที่เห็นได้ชัดจาก DNA นั้น ๆ เริ่มจาก 1 เป็น 100 ล้านได้ ถ้าคุณรู้เทคนิคข้อนี้ หา Partner ธุรกิจที่เชื่อในแนวคิดและความเป็นไปได้แบบเดียวกับคุณ เพื่อมาร่วมปั้นมันไปด้วยกัน เรามีอายุขัย อย่าไปคิดว่าจะทำธุรกิจไปตลอดชีวิต วางแผนทำธุรกิจให้สำเร็จในระยะสั้นที่สุด แล้วออกไปใช้ชีวิตของคนรวยซะ …
อยากได้แผนธุรกิจที่ดี ไม่ใช่แค่ประชุมทีม แต่ต้องฟังจากเสียงลูกค้าและสร้างการสื่อสารให้ชัดว่า เขาและเราคือ ‘คนที่ใช่’ ของกันและกัน
อยากได้แผนธุรกิจที่ดี ไม่ใช่แค่ประชุมทีม แต่ต้องฟังจากเสียงลูกค้าและสร้างการสื่อสารให้ชัดว่า เขาและเราคือ ‘คนที่ใช่’ ของกันและกัน นั่งถามกันในที่ประชุม จะทำธุรกิจอะไรดี จะทำสินค้าและบริการอะไรดี ? คำตอบที่ได้จะเป็นแนวคิดและมุมมองจากฝั่งเราแค่ฝั่งเดียวในสิ่งที่เราอยากขาย แต่พอเอาเข้าจริงแล้ว สิ่งที่สะท้อนกลับ คือมันไม่ตอบโจทย์หรือถูกใจลูกค้า ฉะนั้นการทำแผนธุรกิจที่ดีที่สุดที่มากกว่าการแค่นั่งคิดเองคือ ‘การถามลูกค้า’ ลูกค้าคือเข็มทิศของธุรกิจที่ดีที่สุด เคยเจอไหม ? จริง บริษัทเราเซอร์วิสแค่นี้นะ แต่เมื่อเกิดความไว้ใจจากลูกค้าแล้ว ลูกค้าจะเป็นคนนำโปรดักส์อื่น ๆ มาป้อนใส่มือให้เราขายเอง และบางครั้งดันเป็นโปรดักส์ที่ขายดีกว่าโปรดักส์ตั้งต้นที่วางแผนไว้ซะดิบดี นอกจากนี้เสียงของลูกค้า ยังเป็นตัวที่ทำให้เราเห็นตัวเองในอีกมิติที่คนนอกมองเรา บางครั้งเราคิดว่าเราเก่งเรื่องนี้ แกร่งเรื่องนี้ จุดขายเราคือเรื่องนี้ แต่เอาจริงแล้วลูกค้าอาจจะ shopping เราจากเหตุผลอื่นก็ได้ การฟังให้มากกว่าพูด การตั้งคำถามให้เยอะ ๆ ยังเป็นพื้นฐานของการ create แผนกลยุทธ์อยู่เสมอ …