จุดยืนทางความคิด เรื่องเล็กน้อย แต่สำคัญ และไม่ควรมองข้าม

ยุคโซเชียลครองเมืองแบบในทุกวันนี้ ทุกคนเป็นตัวเองมากขึ้น มีความกล้าที่จะแสดงออกความคิดเห็นมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดบุคคลที่เป็นผู้นำทางความคิดมากมายในโลกโซเชียล จนทำให้เกิดการตั้งคำถามถึง ‘จุดยืนทางความคิด’ ในแง่ของประโยชน์ และความสำคัญ

แต่จะบอกว่า จริงๆแล้วเราไม่จำเป็นต้องมีใครมาเป็นไอดอลแบบอย่างทางความคิดให้กับเราเลย เพราะจริงๆแล้วเราสามารถสร้างจุดยืนทางความคิดของเราได้ด้วยตนเอง ซึ่งถ้าเราสร้างได้ มันจะช่วยปรับให้เรามั่นใจ และเป็นคนที่น่าสนใจมากขึ้นเลยทีเดียว

รู้ทันตัวเองก่อนว่ามีความคิดฝั่งบวก หรือฝั่งลบ : ในความคิดเรามักจะมีความคิดทั้งในด้านดี และด้านร้ายปะปนกันไป และแน่นอนว่าเรามักจะมีฝั่งใดฝั่งนึงมากกว่าอยู่เสมอ เราจึงต้องเรียนรู้ตัวเอง และหาให้เจอว่าเราเป็นคนที่ ‘เด่น’ ในฝั่งไหนกันแน่
ค้นหาตัวเองเจอแล้ว ก็ต้องเริ่มพัฒนา : ถ้าใครมีความคิดฝั่งบวกมากกว่าก็ถือว่าเป็นข้อดี พัฒนาความคิดให้เป็นบวกกับตัวเองให้ได้ในทุกๆวัน (แต่ถ้าบวกมากจนเหมือนวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ ลดลงหน่อยก็ดีนะ) แต่ถ้าคุณมีความคิดทางฝั่งลบแข็งแรงกว่า คุณอาจจะต้องลองเปลี่ยนข้าง ย้ายฝั่งให้มีความคิดเป็นบวกมากขึ้น เริ่มง่ายๆจากการมองโลกตามความจริง อาจจะไม่ต้องมองสวยงาม แต่ไม่ต้องมองเป็นลบไปทั้งหมด ถ้าเริ่มทำได้ ความคิดเราก็จะค่อยๆเปลี่ยนไปแบบอัตโนมัติ
ไม่หยุดพัฒนาตัวเองในทุกวัน : มันต้องมีกันบ้างที่เราเหนื่อยกับการปรับตัวเอง และพัฒนาตัวเอง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคุณหยุดพักครั้งนึง มันจะทำให้เกิดการหยุดพักได้ถี่ขึ้น และจะทำเกิดการหยุดพักพัฒนาตัวเองยืดยาวออกไป จนเราขี้เกียจจะพัฒนาตัวเองต่อไป ดังนั้นพัฒนาในทุกๆวัน จะมากจะน้ออยก็ขอให้ทำซะ
อ่อนน้อม แต่ไม่อ่อนไหว : จริงอยู่ที่การมีจุดยืนทางความคิดที่แข็งแรงมากๆ จะช่วยเสริมบุคลิกของคุณให้ดูชัดเจนได้มากขึ้น แต่การไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆเลยก็เป็นความน่ากลัวไม่น้อย และอาจจะทำให้คุณดูไม่น่าเข้าหา ดังนั้นเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆที่อาจจะเห็นต่างออกไป ดึงสิ่งดีมาต่อยอดความคิด แต่ต้องไม่อ่อนไหวง่ายๆ จนจุดยืนของตัวเองโลเลไม่ชัดเจน
ด้วยทริคที่แนะนำข้างต้น จะเปลี่ยนคุณจากคนธรรมดา ให้กลายเป็นคนสตรองทางความคิด จากพี่ลูกเกดที่ว่าสตรองยังต้องร้องว้าวเลยทีเดียว

ติดต่อเรา
E-mail: info@brandcom.co.th
Line: @brandcommunication